แปลจาก...World History ของ Mcdougal Littel
แปลโดย...ทรงศักดิ์ สายหยุด

การอพยพของมนุษย์ยุคแรก

การอพยพของมนุษย์ยุคแรก
มนุษย์อพยพจากทวีปแอฟริกา
ในยุคหินเก่า สภาพภูมิอากาศทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้สภาพทางภูมิศาสตร์ของโลกก็มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย  มนุษย์มีการตอบสนองกับเหตุการณ์เหล่านี้ จึงเริ่มโยกย้ายไปยังสถานที่ใหม่

ยุคน้ำแข็ง
นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า เมื่อประมาณ 1.6 ล้านปีที่ผ่านมา สถานที่หลาย ๆ แห่งทั่วโลกเริ่มประสบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นเวลานาน ยุคที่มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นเหล่านี้เรียกว่า ยุคนำแข็ง (ice ages) ยุคน้ำแข็งได้สิ้นสุดลงเมื่อประมาณ 10,000 ปีที่ผ่านมา
ในยุคน้ำแข็ง แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่แผ่ปกคลุมพื้นแผ่นดินเป็นส่วนมาก แผ่นน้ำแข็งเหล่านี้เกิดจากน้ำทะเล ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลในปัจจุบัน  พื้นที่หลายแห่งที่ปัจจุบันอยู่ใต้น้ำ ยังเป็นพื้นแผ่นดินอยู่  ตัวอย่างเช่น ช่องแคบเบริงที่แยกทวีปเอเชียออกจากทวีปอเมริกาเหนือ แต่นักวิทยาศาสตร์คิดว่า ในยุคน้ำแข็ง ระดับทะเลลดลง ทำให้เกิดเป็นสะพานแผ่นดิน (land bridge) เชื่อมต่อสองทวีปเข้าด้วยกัน สะพานแผ่นดินทำให้ผู้คนในยุคหินอพยพโยกย้ายทั่วโลก

การตั้งรกรากบนแผ่นดินใหม่
นักวิทยาศาสตร์ยอมรับว่า การอพยพโยกย้ายไปทั่วโลกเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปี มนุษย์โฮมินิด (hominid) ยุคแรก ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์สมัยใหม่อพยพมาจากทวีปแอฟริกาไปสู่ทวีปเอเชีย อย่างช้าที่สุดก็เมื่อประมาณ 2 ล้านปีที่ผ่านมา จากทวีปเอเชีย ก็กระจัดกระจายไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปยุโรป  ต่อมา มนุษย์ก็เริ่มอพยพโยกย้ายทั่วโลกและมนุษย์โฮมินิดยุคแรกสุด ก็ได้สูญพันธุ์ไป
มนุษย์เริ่มอพยพออกจากทวีปแอฟริกาด้านทิศตะวันออกไปสู่ทวีปแอฟริกาด้านทิศใต้และเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อประมาณ 100,000 ปีที่ผ่านมา แล้วอพยพไปทางตะวันออกข้ามเอเชียใต้ และอาจจะอพยพไปยังทวีปออสเตรเลีย นักวิทยาศาสตร์ไม่มั่นใจอย่างแน่ชัดว่า มนุษย์คนแรกเดินทางไปถึงทวีปออสเตรเลียได้อย่างไร แม้ว่าขณะนั้นระดับน้ำทะเลอาจจะอยู่ต่ำ น่าจะมีพื้นแผ่นดินที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปออสเตรเลีย (ดูแผนที่)
มนุษย์ยังอพยพจากเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ขึ้นเหนือไปสู่ทวีปยุโรป ลักษณะทางภูมิศาสตร์ เช่น ภูเขาสูงและอุณหภูมิเย็น ทำให้การโยกย้ายไปทางทิศเหนือสู่ภาคเหนือของเอเชียล่าช้า  อย่างไรก็ตาม ในที่สุด ผู้คนจากทั้งในยุโรปและเอเชียภาคใต้ ก็อพยพโยกย้ายเข้าไปสู่ภูมิภาคนั้น

จากทางตอนเหนือของเอเชีย ผู้คนก็อพยพโยกย้ายเข้าไปสู่ทวีปอเมริกาเหนือ นักวิทยาศาสตร์มีความเห็นแตกต่างกันว่า มนุษย์พวกแรกอพยพไปสู่ทวีปอเมริกาเหนือเมื่อใดและด้วยวิธีอย่างไร นักวิชาการส่วนใหญ่คิดว่า ผู้คนต้องอพยพข้ามสะพานแผ่นดินจากทวีปเอเชียไปยังทวีปอเมริกาเหนือ เมื่ออยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ผู้คนเหล่านี้ ก็อพยพโยกย้ายไปลงไปทางใต้ พร้อมด้วยฝูงสัตว์เลี้ยงและตั้งถิ่นฐานอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ประมาณ 9,000 ปีก่อนคริสตกาล มนุษย์อาศัยอยู่ทั่วทุกทวีปของโลกยกเว้นทวีปแอนตาร์กติกา

ผู้คนปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่
ในขณะที่ผู้คนยุคแรกอพยพโยกย้ายไปสู่ดินแดนใหม่ พวกเขาก็พบกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากแอฟริกาตะวันออกมาก หลายแห่งมีอากาศหนาวเย็นมากและมีพืชและสัตว์แปลกจากถิ่นเดิม ผู้คนยุคแรก จึงต้องเรียนรู้ในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่

เครื่องนุ่งห่มและที่อยู่อาศัย
แม้ว่าไฟจะช่วยรักษาความอบอุ่นให้คนในบริเวณที่หนาวจัด ผู้คนยังจำเป็นต้องมีเครื่องป้องกันความหนาวมากขึ้นอีก  พวกเขาจึงเรียนรู้ในการเย็บหนังสัตว์เข้าด้วยกันเพื่อผลิตเป็นเครื่องนุ่งห่มในการรักษาความอบอุ่น
นอกเหนือไปจากเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มแล้ว ผู้คนก็ต้องการที่พักพิงเพื่อความอยู่รอด  ครั้งแรก พวกเขาหาที่พักพิงในถ้ำ เมื่อพอยพโยกย้ายไปยังพื้นที่ที่ไม่มีถ้ำ ก็สร้างที่พักอาศัยของตนเอง  ที่พักพิงแห่งแรกที่มนุษย์สร้างขึ้น เรียกว่า pit house (บ้านที่มีลักษณะเป็นหลุม) โดยการขุดหลุมแล้วเอากิ่งไม้และใบไม้มาทำหลังคา
ต่อมา ผู้คนเริ่มสร้างบ้านเหนือพื้นดิน บางคนอาศัยอยู่ในเต็นท์ที่ทำจากหนังสัตว์ คนอื่น ๆ ก็สร้างบ้านที่มีโครงสร้างมั่นคงมากขึ้น ด้วยไม้ หิน ดิน หรือวัสดุอื่น ๆ แม้กระทั่ง กระดูกของสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น ช้างแมมมอธ ก็ใช้ในการสร้างที่พักอาศัย

แผนที่การอพยพของมนุษย์ยุคแรก


บ้านทำจากช้างแมมมอธ

ผู้คนในยุคแรก คือ เผ่าชนเร่ร่อนล่าสัตว์หาอาหาร พวกเขาจะล่าสัตว์และหาพืชป่าเพื่อความอยู่รอด การดำเนินชีวิตของเผ่าเร่ร่อนหาอาหารเหล่านี้ ยุ่งยากและอันตราย  ผู้คนยังคงเรียนรู้การทำเครื่องมือ การใช้ไฟ และการสร้างสรรค์ศิลปะ