การค้าขายของชาวไมนวน
(Minoans)
ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
|
||
การค้าขายของชาวไมนวน (Minoans) ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ชาวไมนวน เป็นชาวเรือที่มีอิทธิพลมาก
โดดเด่นในการค้าขายทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้านทิศตะวันออก นับจากประมาณ 2,000-1,400 ปีก่อนคริสตกาล อาศัยอยู่บนเกาะครีต (Crete) ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่ด้านใต้ของทะเลอีเจียน
(Aegean Sea) ชาวไมนวนผลิตเครื่องปั้นดินเผามีลวดลายสวยงามมากในยุคนั้น
พวกเขาค้าขายเครื่องปั้นดินเผานั้น พร้อมกับดาบ กระเบื้องและภาชนะที่ทำจากโลหะล้ำค่า
ไปทั่วบริเวณขนาดใหญ่
ชาวไมนวนยังนำศิลปะและวัฒนธรรมของตนเองไปเผยแพร่พร้อมกับสินค้าเหล่านั้น
รวมถึงสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ประเพณีการฝังศพและพิธีกรรมทางศาสนา ตัวอย่างเช่น วัฒนธรรมของชาวไมนวนมีอิทธิพลอย่างมากต่อกรีซ
การค้าขายได้เปลี่ยนแปลงเกาะครีตเป็น “การเติบโตแบบก้าวกระโดด"
เนื่องจากมีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมไปทั่วโลกแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
การค้นพบวัฒนธรรมอันรุ่งเรือง นักโบราณคดีในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 19
และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ได้ขุดพบเมืองคนอสซอส (Knossos) เมืองหลวงของชาวไมนวน
ณ ที่นั้น นักโบราณคดีได้ค้นพบซากวัฒนธรรมที่ทันสมัยและเจริญรุ่งเรือง
มันต้องเป็นเมืองที่เงียบสงบด้วยซ้ำ เนื่องจากเมืองของชาวไมนวนดูเหมือนไม่มีความจำเป็นต้องมีป้อมปราการเพื่อป้องกันตนเองเลย
นักโบราณคดีได้ตั้งชื่ออารยธรรมที่พวกเขาค้นพบในครีตว่า
มิโนอา (Minoa) ตามพระนามกษัตริย์ไมนอส (King Minos)
ตามตำนานกล่าวไว้ว่า กษัตริย์ไมนอสเป็นเจ้าของสัตว์ประหลาดครึ่งมนุษย์ครึ่งวัวกระทิง
เรียกว่า มินะทอร์ (Minotaur) พระองค์ทรงเก็บรักษาสัตว์ประหลาดโดยการขังไว้ภายในเขาวงกตที่สลับซับซ้อนยากที่ใครจะสามารถหลบหนีได้
การขุดพบเมืองคนอสซอสและกำแพงที่มีการวาดภาพได้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับชาวไมนวนเป็นอันมาก
ภาพวาดผนัง ตราประทับของทางการและแจกัน แสดงให้เห็นว่า ชาวไมนวนเป็นคนที่สง่างามมีร่างกายกำยำเหมือนนักกีฬา รักธรรมชาติและความสวยงาม
พวกเขายังมีความสุขกับการเล่นกีฬา เช่น ชกมวย มวยปล้ำและการต่อสู้วัวกระทิง
งานศิลปะของชาวไมนวนหลายอย่าง
วาดภาพสตรีและบทบาทของสตรีในพิธีกรรมทางศาสนา ศิลปะแสดงให้เห็นว่า สตรีในวัฒนธรรมไมนวนมีฐานะที่สูงกว่าสตรีในวัฒนธรรมใกล้เคียง
พระแม่ธรณีผู้ยิ่งใหญ่ดูเหมือนจะปกครองเทพอื่น
ๆ ของเกาะครีต นอกจากนี้ นักบวชผู้หญิงดูแลวิหาร โดยมีผู้ช่วยเป็นผู้ชาย
ชาวไมนวนเอาวัวตัวผู้และสัตว์อื่น
ๆ ของตนเองบวงสรวงเทพเจ้า อย่างน้อยที่สุด จะมีอยู่กรณีหนึ่งที่เอาชายหนุ่มมาบูชายัญ
การขุดค้นวัดบนภูเขาเผยให้เห็นกระดูกของเด็กชายอายุ
17 ปีบนแท่นบูชาพร้อมกับโครงกระดูกของนักบวชผู้ชาย 3 คน ตำแหน่งของโครงกระดูก ชี้ให้เห็นว่า นักบวชชายได้เอามนุษย์บูชายัญก่อนที่อาคารจะทรุดตัวลง
วัฒนธรรมไมนวนสิ้นสุดลงอย่างลึกลับ ในที่สุด อารยธรรมไมนวนก็สิ้นสุดลง
เมื่อประมาณ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล เหตุผลแห่งการสิ้นไม่มีความชัดเจน อาจจะได้รับกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือไม่?
เกาะอาจจะมีพลเมืองมากเกินไปหรือไม่?
หรือไม่ก็ถูกผู้บุกรุก?
อารยธรรมทนต่อภัยพิบัติก่อนหน้านี้
เมื่อประมาณ 1,700 ปี ก่อนคริสตกาล ภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งอาจจะเกิดแผ่นดินไหว
ทำลายเมืองน้อยและเมืองใหญ่ของชายไมนวนจนหมดสิ้น ชาวไมนวนได้สร้างเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์เท่า
ๆ กันขึ้นมาใหม่ จากนั้น เมื่อ 1,470 ปี
ก่อนคริสตกาล แผ่นดินไหวเป็นชุด ๆ ทำให้เกาะครีตสั่นสะเทือน
ตามมาด้วยการระเบิดของภูเขาไฟที่รุนแรงในเกาะธีรา
(Thera) ซึ่งอยู่ใกล้เคียง ลองนึกภาพการสั่นสะเทือนของแผ่นดิน
การระเบิดของภูเขาไฟอันร้อนแรง ตามด้วยคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่และฝนเถ้าภูเขาไฟสีขาวตามมาท้ายสุด
|
ภัยพิบัติเมื่อ 1,470 ปี ก่อนคริสตกาล ทำให้ชาวไมนวนไม่เคยฟื้นฟูบ้านเมืองได้สมบูรณ์เลย ช่วงนี้ ชาวไมนวนมีปัญหาในการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ อย่างไรก็ตาม อารยธรรมไมนวนยังคงหลงเหลือมาเป็นเวลาเกือบ 300 ปี หลังจากนั้น ผู้รุกรานจากกรีซอาจได้รับประโยชน์จากสภาพที่อ่อนแอของพวกเขาในการทำลายพวกเขา ชาวไมนวนบางพวกหนีไปบนภูเขาเพื่อหลบหนีการทำลายล้างอาณาจักร อิทธิพลของเกาะครีต ซึ่งเป็นอำนาจทางทะเลที่สำคัญและมีอิทธิพลทางวัฒนธรรมก็ถึงกาลอวสาน
ชาวฟินิเซีย (Phoenician) แพร่กระจายการค้าขายและอารยธรรม
ประมาณ 1,100 ปีก่อนคริสตกาลหลังจากการล่มสลายของเกาะครีต พ่อค้าผู้มีอิทธิพลมากที่สุด
ตามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คือ ชาวฟินิเซีย (Phoenicia) ดินแดนฟินิเซีย
คือ บริเวณที่เป็นประเทศเลบานอนส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ ชาวฟินิเซียไม่เคยรวบรวมประเทศเป็นปึกแผ่นเลย
แต่พวกเขาก็ได้ก่อตั้งนครรัฐอันมั่งคั่งเป็นจำนวนมาก รอบ ๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ซึ่งบางเวลาก็แข่งขันกัน เมืองแรกในดินแดนฟินิเซีย เช่น เมืองบิบลอส (Byblos) เมืองไทร์ (Tyre) และเมืองไซดอน (Sidon) เป็นต้น เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ
ชาวฟินิเซียเป็นนักสร้างเรือและเป็นนักเดินเรือที่ยอดเยี่ยม
พวกเขาเป็นชาวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนพวกแรกที่ผจญภัยเหนือช่องแคบยิบรอลตาร์
นักวิชาการบางพวก เชื่อว่า ชาวฟินิเซียค้าขายแร่ดีบุกกับชาวพื้นเมืองทางฝั่งทะเลตอนใต้ของสหราชอาณาจักร
มีหลักฐานบางอย่างที่แสดงถึงความชำนาญที่น่าทึ่งมาก คือ การแล่นเรือใบทั่วทวีปแอฟริกาทางทะเลแดงและกลับมาผ่านช่องแคบยิบรอลตาร์
การเดินทางดังกล่าว ไม่ซ้ำกันเลย เป็นเวลาถึง 2,000 ปี นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก
ชื่อ เฮอรอโดทัส (Herodotus) บรรยายความชำนาญของชาวฟินิเซียไว้ในหนังสือ “ในประวัติศาสตร์” เล่มที่
4 (ศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล) (HERODOTUS, in History, Book IV
(5th century B.C.)) ว่า
“ชาวฟินิเซียเริ่มออกเดินทางจากทะเลแดงและแล่นเรือไปสู่ทะเลทางทิศใต้
(มหาสมุทรอินเดีย) เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง พวกเขาก็จะใช้เวลาปลูกผักบนพื้นแผ่นดิน พวกเขาอาจจะเดินทางมาถึงสถานที่เป็นส่วนหนึ่งของลิเบีย
(แอฟริกา) และรอการเก็บเกี่ยว จากนั้น เมื่อเก็บรวบรวมพืชพันธุ์ธัญญาหารแล้ว พวกเขาก็แล่นเรือต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อผ่านไปสองปี ก็เป็นครั้งที่สามที่พวกเขาแล่นเรือรอบเสาหินของเฮอร์คิวลีส
(the
Pillars of Heracles – หมายถึง ช่องแคบยิบรอลตาร์)
และมาถึงอียิปต์ ณ ที่นั่น พวกเขากล่าวว่า (สิ่งที่บางคนอาจจะเชื่อ แต่ฉันไม่เชื่อ)
ว่า ในการแล่นเรือรอบลิเบีย พวกเขามีดวงอาทิตย์อยู่ทางขวามือ
[ในตำแหน่งย้อนกลับ]”
|
แผนที่อารยธรรมไมนวนและไมซีเนีย |
นักสู้วัวกระทิงแห่งเมืองคนอสซอส
ภาพวาดผนังด้านบนคือการกระโดดท้าทายความตายของนักสู้วัวกระทิงชาวไมนวน
ลอยอยู่บนหลังวัว ผลงานจำนวนมากของศิลปะไมนวนแสดงถึงชายหนุ่มที่กำลังกระโดดโลดโผนอย่างน่าทึ่งอยู่เหนือเขาของวัวที่กำลังโกรธ
ในกรณีหนึ่ง เป็นการกระโดดกายกรรมเหนือเขาวัว
ด้วยการตีลังการบนหลังวัวและลงด้านหางของมัน
ด้วยความชำนาญด้านกายกรรม
สมาชิกในทีมบางคน จะโหนเขาวัว โดยใช้ร่างกายเพื่อลดการกระแทกของเขาวัวและบังคับให้หัวของวัวก้มต่ำลง
ในขณะสมาชิกในทีมอีกคนหนึ่งจะกระโดดขึ้นไปบนหลังของมัน
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้วัวนี้ กระโจน? มันเป็นกีฬาหรือไม่? หรือเป็นเพียงแค่กิจกรรมเล่น
"สนุก"? หรือเป็นการเริ่มต้นสำหรับนักรบหนุ่ม? หรือเป็นพิธีกรรมทางศาสนา? ส่วนใหญ่เป็นทุกสิ่งที่กล่าวมานี้
|
การค้าขายของชาวฟินิเซีย
ฟินิเซีย ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีสำหรับการค้าขาย
เนื่องจากทอดไปตามเส้นทางสำหรับเดินทางได้เป็นอย่างดี ระหว่างอียิปต์และเอเชีย
อย่างไรก็ตาม ชาวฟินิเซียไม่ได้แค่รอการค้าขายกับพ่อค้าที่เดินทางผ่านภูมิภาคของพวกเขา
ยังเป็นลูกเรือผู้เชี่ยวชาญและเดินทางค้นหาโอกาสในการสร้างรายได้อีกด้วย
|
|
เรือค้าขาย
ลูกเรือชาวฟินิเซียพัฒนาเรือรูปทรงกลม
ซึ่งเป็นเรือที่กว้างมากและมีท้องโค้งมน รูปทรงแบบนี้สร้างพื้นที่ว่าขนาดใหญ่สำหรับการขนส่งสินค้า
|