การรวมตัวเป็นเอกภาพของจีน
|
||
ราชวงศ์โจว
(Zhou
Dynasty) ยืนหยัดอยู่อย่างน้อยถึง 8 ศตวรรษ ตังแต่ประมาณ 1027 ปี ถึง 256 ปีก่อนคริสตกาล 300 ปีแรกที่ราชวงศ์โจวปกครองยาวนาน
เป็นอาณาจักรที่ใหญ่มาก รวมทั้งดินแดนด้านตะวันออกและด้านตะวันตก ผู้ปกครองท้องถิ่นจะรายงานทุกเรื่องให้กับกษัตริย์ผู้มีอำนาจสูงสุด
หลายปีต่อมา
ขุนนางแห่งดินแดนที่เป็นเมืองขึ้นเริ่มคิดว่าตัวเองเป็นกษัตริย์ที่มีอิสรภาพ ความขัดแย้งซึ่งแทบจะมีอย่างต่อเนื่อง
ที่เรียกกันว่า ยุครณรัฐ หรือ ยุคเลียดก๊ก (the warring states period) ได้นำไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์โจว
|
||
ขงจื๊อกับระเบียบทางสังคม
ในช่วงท้ายของราชวงศ์โจว
จีนละทิ้งคุณค่าอันเก่าแก่ของระเบียบทางสังคม
ความสามัคคีและความเคารพต่อผู้มีอำนาจ นักวิชาการและนักปรัชญาจีน จึงพัฒนาวิธีการแก้ปัญหาต่าง
ๆ เพื่อฟื้นฟูคุณค่าเหล่าให้กลับคืนมา
ขงจื๊อปลุกเร้าให้เกิดความสามัคคี นักปราชญ์ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดของจีน
คือ ขงจื้อ เกิดเมื่อ 551 ปี
ก่อนคริสตกาล ขงจื๊อมีชีวิตอยู่ในยุคที่ราชวงศ์โจวกำลังเสื่อมโทรม
ท่านเป็นผู้นำทางชีวิตแห่งการศึกษา ด้วยการให้การศึกษาและสอนประวัติศาสตร์ ดนตรีและศีลธรรม
ขงจื๊อเกิดในช่วงเวลาแห่งวิกฤตและความรุนแรงในประเทศจีน
ท่านมีความปรารถนาอย่างลึกซึ้งในการฟื้นฟูวิถีชีวิตอันเป็นระเบียบและมีศีลธรรมในยุคแรกให้กลับมาสู่สังคมของจีน ท่านเชื่อว่า ระเบียบทางสังคม ความสามัคคี
ตลอดจนการปกครองที่ดี สามารถฟื้นฟูให้กลับคืนมาได้ ถ้าสังคมมีการจัดระเบียบความสัมพันธ์ขั้นพื้นฐาน 5 ประการ
คือ ความสัมพันธ์ระหว่าง (1) ผู้ปกครองกับราษฎร (2)
บิดากับบุตร (3) สามีกับภรรยา (4) พี่ชายกับน้องชายและ (5) เพื่อนกับเพื่อน ประมวลศีลธรรมอันเหมาะสม
จะวางระเบียบความสัมพันธ์แต่ละอย่างเหล่านี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ปกครองควรปกครองด้วยเมตตาธรรมและวิถีชีวิตที่ดีงาม
ในทางกลับกัน ราษฎร ควรจะจงรักภักดีและปฏิบัติตามกฎหมาย
ความสัมพันธ์
5 ข้อของจื๊อ มี 3 ข้อที่เกี่ยวกับครอบครัว
ขงจื๊อเน้นว่า ลูก ๆ ควรมีความกตัญญูและความเคารพต่อบิดามารดาและบรรพบุรุษ ความกตัญญูตามคำสอนของขงจื๊อหมายถึงการอุทิศตัวเองให้กับบิดามารดาในช่วงเวลาที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
เมื่อท่านเสียชีวิตไปแล้ว ลูก ๆ ยังมีความจำเป็นในการยกย่องท่านด้วยการทำพิธีกรรมบางอย่าง
ขงจื๊อต้องการปฏิรูปสังคมจีน
ด้วยการแสดงวิธีการปกครองอย่างชาญฉลาดให้กับผู้ปกครอง เจ้าแห่งแคว้นหลู่ประทับใจในปัญญาของขงจื๊อ
จึงแต่งตั้งท่านให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตามตำนานกล่าวว่า ขงจื๊อ ดูแลประชาชนด้วยเมตตาธรรมและความสุภาพ ไม่นานนัก อาชญากรรมก็หายไปจากแคว้นหลู่ อย่างไรก็ตาม
เมื่อแนวทางของเจ้าผู้ปกครองแคว้นหลู่ เปลี่ยนแปลงไป ขงจื๊อจึงท้อแท้ใจและลาออก
ขงจื้อใช้เวลาที่เหลือของชีวิตของท่านด้วยการสั่งสอนศิษย์
ต่อมา ลูกศิษย์ของท่าน ได้รวบรวมคำสอนของท่านเป็นคัมภีร์กวีนิพนธ์ ศิษย์ของท่านคนหนึ่ง นามว่า เม่งจื๊อ
ยังได้เผยแพร่แนวความคิดของขงจื๊อต่อไปด้วย
แนวความคิดของขงจื๊อเกี่ยวกับการปกครอง
ขงจื๊อกล่าวว่า
การศึกษาสามารถเปลี่ยนแปลงคนที่เกิดมาต่ำต้อยให้เป็นผู้สูงส่งได้ ด้วยคำกล่าวนี้ ท่านจึงได้วางรากฐานสำหรับสร้างระบบราชการ ฝึกหัดการบริการประชาชน
หรือผู้บริหารงานราชการ ตามคำสอนของขงจื๊อ
ข้าราชการที่ดีต้องมีคุณธรรม 4 ประการ คือ 1.
พฤติกรรมส่วนตัวต้องมีความสุภาพ
2. การบริการเจ้านายต้องมีความพิถีพิถันแม่นยำ 3. การจัดหาสิ่งจำเป็นให้กับประชาชน
ต้องให้มากกว่ารับ และ 4. การเก็บภาษีจากประชาชน
ต้องมีความเที่ยงธรรม การศึกษามีความสำคัญมากต่อความก้าวหน้าในอาชีพราชการ
ลัทธิขงจื๊อไม่ใช่ศาสนา
(religion ตามแนวฝรั่งตะวันตก) แต่เป็นระบบจริยธรรม
ซึ่งเป็นระบบที่ยอมรับหลักการของความผิดและความถูกต้อง เป็นรากฐานการปกครองและระเบียบทางสังคมของจีน
นอกจากนี้ แนวความคิดของขงจื๊อยังได้เผยแพร่ออกจากประเทศจีนและมีอิทธิพลต่ออารยธรรมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
|
ระบบจริยธรรมอื่น ๆ
นอกจากขงจื้อแล้ว
นักวิชาการและนักปรัชญาจีนคนอื่น ๆ ก็ได้พัฒนาจริยธรรมระบบจริยธรรมต่าง ๆ มากมาย
บางท่านเน้นความสำคัญของธรรมชาติ บางท่านเน้นอำนาจของรัฐบาล
ปรัชญาเต๋าแสวงหาความสามัคคี นักปรัชญาชาวจีนอีกท่านหนึ่ง ชื่อ
เล่าจื๊อ มีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล เน้นความสำคัญระเบียบทางธรรมชาติ
ระเบียบทางธรรมชาติมีความสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ตำราเต๋าเต็กเก็ง (วิถีแห่งคุณธรรม) ได้อธิบายแนวความเชื่อของเล่าจื๊อ ท่านกล่าวว่า มีพลังงานสากลที่เรียกว่า เต๋า ซึ่งหมายความว่า
"ทาง" ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง ตามคำสอนของเล่าจื๊อ ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดตามธรรมชาติ
มีแต่มนุษย์เท่านั้น ที่มีความล้มเหลวในการปฏิบัติตามเต๋า มนุษย์โต้เถียงแต่ปัญหาเรื่องความถูกและความผิด
ความดีหรือความเลว
ปรัชญาของเล่าจื๊อ เรียกว่า ลัทธิเต๋า
การค้นหาความรู้และความเข้าใจในธรรมชาติของลัทธิเต๋าได้ชักนำให้ศิษยานุศิษย์ไปสู่การศึกษาทางวิทยาศาสตร์
นักปรัชญาเต๋าหลายคนได้สร้างผลงานหลายอย่างให้กับวิทยาศาสตร์ สาขารสายนเวท (วิชาเคมียุคเล่นแร่แปรธาตุ) ดาราศาสตร์และแพทยศาสตร์
นักปรัชญานิตินิยมกระตุ้นให้มีการปกครองแบบเข้มงวด เมื่อเปรียบเทียบกับศิษย์ของขงจื๊อและเล่าจื๊ออย่างชัดเจน
กลุ่มนักปรัชญาแนวปฏิบัติทางการเมือง จะเรียกว่า นิตินิยม พวกเขาเชื่อว่า รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพสูงและสมรรถภาพสูง
จะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในสังคม พวกเขาได้รับการขนานนามเช่นนั้น
เพราะความเชื่อที่ว่า รัฐบาลควรจะใช้กฎหมายยุติความวุ่นวายทางการเมืองและฟื้นฟูความสามัคคี
หาน เฟยจื่อ และหลี่ ซือ อยู่ในกลุ่มผู้ก่อตั้งลัทธินิติธรรม
นักปรัชญานิตินิยม
สอนว่า ผู้ปกครองควรจัดหารางวัลมากมายให้กับประชาชนผู้ทำหน้าที่ของตนให้สำเร็จสมบูรณ์ ในทำนองเดียวกัน ผู้ที่ไม่เชื่อฟังควรจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง
ในทางปฏิบัติ ปรัชญานิตินิยม จะเน้นการลงโทษมากกว่าการให้ผลตอบแทน ยกตัวอย่างเช่น
ผู้ใดพบชาวบ้านของตนเองอยู่นอกหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทาง
ควรจะตัดหูและจมูกทิ้งเสีย
นักปรัชญานิตินิยมเชื่อในการควบคุมความคิดและการกระทำ
พวกเขาแนะนำให้นักปกครองเผาข้อเขียนทั้งหมดที่อาจส่งเสริมให้คนวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
อย่างไรก็ตาม หลักการนั้นก็มีไว้ให้กษัตริย์ใช้ปกครองและให้ประชาชนปฏิบัติตาม
ในที่สุด แนวความคิดนิติธรรม ก็เป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์แห่งราชวงศ์ใหม่ที่เข้ามาปกครองแทนราชวงศ์โจว
ในไม่ช้า นักปกครองผู้ทรงประสิทธิภาพ ก็ได้นำความสงบเรียบร้อยมาสู่จีน
|
ขงจื้อได้เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
ท่านใช้ชีวิตเป็นครู ท่านมีความปรารถนาจะให้ลูกศิษย์ทำงานเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่ผู้นำทางการเมือง
ในที่สุด เมื่ออายุประมาณ 50 ปี ของจื๊อก็ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการกระทรวงในแคว้นบ้านเกิด
ตามตำนานกล่าวว่า ท่านได้วางตัวอย่างคุณธรรมไว้ว่า
ถุงเงินวางอยู่กลางถนน ก็ไม่ควรแตะต้องเป็นเวลาหลายวัน
หลังจากที่ขงจื้อลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการกระทรวง
ท่านก็เดินทางกลับไปเป็นครูสอน ท่านถือได้ว่าตัวเองไม่เคยประสบผลสำเร็จ
เนื่องจากไม่ได้ตำแหน่งในทางราชการในระดับสูง แต่แนวความคิดของขงจื๊อก็เป็นเบ้าหลอมความคิดของชาวจีนมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ
|
แม้เล่าจื๊อจะได้รับความเชื่อถือว่าเป็นนักปรัชญาของลัทธิเต๋า
แต่ก็ไม่มีใครรู้แน่นอนว่าท่านมีชีวิตอยู่จริงๆ
ตำนานเล่าว่า มารดาของเล่าจื๊ออุ้มครรภ์เป็นเวลาถึง 62 ปี และท่านคลอดออกมาในขณะที่มีผมสีขาวและร่างกายมีรอยเหี่ยวย่น
ศิษย์ของเล่าจื๊อ อ้างว่า เล่าจื๊อเป็นผู้ร่วมสมัยกับขงจื๊อ
อย่างไรก็ตาม เล่าจื๊อแตกต่างกับขงจื้อ คือ มีความเชื่อว่า
การปกครองควรจะทำให้เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่าที่จะทำได้และควรปล่อยให้ประชาชนอยู่อย่างโดดเดี่ยว
เล่าจื๊อคิดว่า ประชาชนสามารถทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ประสบผลสำเร็จได้ ลัทธิเต๋ามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับธรรมชาติในฐานะเป็นทางเลือกหนึ่งในภาวการณ์ที่การเมืองเกิดความยุ่งเหยิง
|
|
|
|
|
|
|
ระบบจริยธรรมของจีน
|
||
ลัทธิขงจื๊อ
|
ลัทธิเต๋า
|
ปรัชญาลัทธินิตินิยม
|
- ความสงบของสังคม ความสามัคคีและรัฐบาลที่ดี
ควรอิงอาศัยสัมพันธภาพทางครอบครัว
- ความเคารพบิดามารดาและผู้สูงอายุ
มีความสำคัญกับสังคมที่มีความสงบเรียบร้อยเป็นอย่างดี
- การศึกษามีความสำคัญต่อสวัสดิการของปัจเจกชนและต่อสังคม
|
- ความสงบเรียบของธรรมชาติมีความสำคัญกว่าความสงบเรียบร้อยของสังคม
- พลังของจักรวาลควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง
-
มนุษย์ควรมีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายและมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับธรรมชาติ
|
- การปกครองที่มีประสิทธิภาพและพลานุภาพสูงเป็นกุญแจนำไปสู่ความสงบเรียบร้อยทางสังคม
- การลงโทษเป็นประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม
- นักปราชญ์และแนวความคิดของพวกเขา
ควรถูกควบคุมอย่างเคร่งครัดจากรัฐบาล
|